หน้าหลัก
เกี่ยวกับมูลนิธิ
วันเล็ก-ประไพ รำลึก
ติดต่อเรา
งานวันเล็ก-ประไพ รำลึก ครั้งที่ ๒
บทความโดย มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์
เรียบเรียงเมื่อ 2 ก.พ. 2559, 00:00 น.
เข้าชมแล้ว 3493 ครั้ง

งานวันเล็ก-ประไพ รำลึก ครั้งที่ ๒

 

 

สยามประเทศ

คือ ดินแดนที่คนหลากหลายชาติพันธุ์

มาอยู่ร่วมกันอย่างเสรีและสงบสุข

ความเป็นคนไทยหาใช่เป็นเรื่องของเชื้อชาติ
หากเป็นสิ่งที่เกิดจากบูรณาการทางการเมือง

และวัฒนธรรม

เมืองโบราณ สยามประเทศ

ศรีศักร วัลลิโภดม

 

ภาพขบวนเรือพระที่นั่งสมัยอยุธยา

 

                   วันที่ ๑๗ พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ตรงกับวันที่ คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ จากไปเป็นปีที่สี่ เพื่อระลึกถึงท่าน มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์ จึงจัดกิจกรรมทางปัญญาเพื่อเด็กและบุคคลที่สนใจขึ้นที่เมืองโบราณอย่างเช่นที่เคยทำมาแต่ปีที่แล้ว เนื่องในวันเล็ก-ประไพ รำลึก ครั้งที่ ๒

 

                    ปีนี้เกิดเหตุการณ์ขัดแย้งและยุ่งยากทางสังคมและวัฒนธรรมขึ้นในบ้านเมืองหลายแห่งและหลายครั้ง บางแห่งก็เกิดอย่างต่อเนื่องและทวีความรุนแรงขึ้น เช่นเหตุการณ์ในเขตสามจังหวัดภาคใต้ที่ผู้คนในสังคมส่วนใหญ่เป็นคนมุสลิม เหตุหนึ่งของความยุ่งยากก็คือการที่ทั้งรัฐและสังคมมหาชนเชื่อว่าความวุ่นวายและความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเพราะคนมุสลิมต้องการอยากที่จะแบ่งแยกดินแดนจึงก่อการร้ายขึ้น รัฐจำเป็นต้องใช้กำลังปราบปรามอย่างเด็ดขาด

 

                    นับเป็นเรื่องน่าสนใจที่การแสดงออกในเรื่องความคิดเห็นของคนในสังคมมองเห็นว่าคนมุสลิมไม่ใช่คนไทยเพราะพูดภาษาไทยไม่รู้เรื่องและเป็นคนนอกศาสนา

 

                    ข้าพเจ้าเห็นว่าการแสดงออกของคนในสังคมมหาชนในเรื่องความเป็นคนไทยนี้ คือ ผลผลิตของการสร้างประวัติศาสตร์เชื้อชาตินิยมที่มีการอุปโลกน์กันมาแต่สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะครั้งนั้นได้มีการเปลี่ยนชื่อประเทศจาก ประเทศสยาม มาเป็น ประเทศไทย โดยเปลี่ยนใช้ชื่อของดินแดนมาเป็นชื่อของชนชาติ หลายคนไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะรัฐบุรุษอาวุโส ปรีดี พนมยงค์ ถึงกับได้เขียนบทความขึ้นมาแสดงความคิดเห็นคัดค้าน

 

วิหารสุโขทัย

 

                คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ เป็นคนหนึ่งที่เห็นด้วยกับชื่อประเทศสยามเพราะท่านเข้าใจและแลเห็นการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขของคนหลายชาติ หลายภาษา หลายเผ่าพันธุ์ และหลายศาสนาในดินแดนสยามประเทศ คุณเล็กแลเห็นกลไกที่เชื่อมโยงให้ผู้คนที่หลากหลายได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในเรื่องของความเป็นคนไทย

 

                ความเป็นคนไทยเป็นเรื่องสมมุติที่เกิดจากกระบวนการดูดกลืนให้ผู้คนหลากหลายทางวัฒนธรรมและเผ่าพันธุ์มาเป็นพวกเดียวกัน

 

                สถาบันกษัตริย์และระบบศักดินานับว่ามีบทบาทสูงในการสร้างความเป็นคนไทย นั่นคือ พระมหากษัตริย์ผู้เป็นประมุขของประเทศนั้นหาได้เป็นคนของเผ่าพันธุ์ใดไม่ คติทางพระพุทธศาสนาได้ยกให้พระองค์เป็นพระสมมุติราชเพราะเป็นผู้ที่อเนกนิกรสโมสรหรือผู้คนทั้งหลายในแผ่นดินพร้อมใจกันยกย่องและเทิดทูน

 

                 พระมหากษัตริย์ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก คือ ทรงดูแลประชานิกรในทุกพระศาสนาอย่างเสมอภาค คงเห็นได้จากการพระราชทานที่ดินให้คนต่างแดนต่างชาติที่เข้าพึ่งพระบรมโพธิสมภารตั้งหลักแหล่งชุมชน มีวัดและสถานที่ประกอบกิจกรรมทางศาสนาตามประเพณีความเชื่อของพวกตน อีกทั้งยังให้กลุ่มชนนั้นๆ ปกครองกันเอง เลือกผู้ปกครองที่ทางรัฐให้การยอมรับและให้ตำแหน่งยศถาบรรดาศักดิ์ ยิ่งกว่านั้นบุคคลใดในชนชาติและเผ่าพันธุ์ใด ถ้าหากมีความรู้ความสามารถในวิทยาการต่างๆ ก็มีโอกาสที่เข้ามารับราชการเพื่อทำประโยชน์ให้แก่บ้านเมืองและสังคมได้ เหตุนี้เองที่บรรดาขุนนางชั้นผู้ใหญ่และผู้น้อยเป็นจำนวนมากแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาลงมาจนถึงกรุงเทพฯ ที่เรียกว่า ขุนนางหรือผู้ลากมากดี นั้น คือคนที่มีรากเหง้ามาจากเผ่าพันธุ์และศาสนาที่หลากหลายทั้งสิ้น

 

พระที่นั่งสรรเพชญมหาปราสาท

 

                  ความเป็นคนไทยจึงเป็นเรื่องสัญลักษณ์ที่เกิดจากการดูดกลืนและบูรณาการทางวัฒนธรรมให้เป็นพวกเดียวกันในส่วนรวมเป็นสำคัญ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้คนที่หลากหลายทางเผ่าพันธุ์และศาสนาก็ยังคงธำรงสำนึกทางชาติพันธุ์และความเชื่อทางศาสนาของตนอยู่ ดังปรากฏให้เห็นในความเป็นชุมชนเมืองแทบทุกแห่งในประเทศสยามที่มีตลาดเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนและสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและสังคมล้วนมีผู้คนหลายเผ่าพันธุ์และศาสนาอยู่ด้วยกัน จนนับเป็นอัตลักษณ์อย่างหนึ่งของบ้านเมืองในสยามประเทศทีเดียว

 

                  คุณเล็ก วิริยะพันธุ์เป็นผู้หนึ่งที่เติบโตมาในย่านสังคมเมืองที่มีความหลากหลายดังกล่าวนี้ ทำให้แลเห็นและซาบซึ้งว่า สังคมของคนสยามคืออะไร

 

สวนพฤกษชาติในวรรณคดีไทย

 

                การเปลี่ยนแปลงทางสังคมวัฒนธรรมอันสืบเนื่องมาจากการเปลี่ยนชื่อประเทศนั้น คือ สิ่งหนึ่งที่ทำให้คุณเล็กสร้างเมืองโบราณขึ้น เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้และรับรู้ถึงความสงบสุขและเรียบง่ายของสังคมสยามที่มีความสมดุลย์ในทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมนั้นเป็นอย่างใด

 

                ท่านต้องการทำให้เห็นว่าเมืองโบราณคือ "สยามประเทศ" ที่เต็มไปด้วยคนหลากหลายเผ่าพันธุ์และศาสนาได้อยู่กันอย่างสงบเป็นเวลานับพันปี สิ่งที่แสดงออกอย่างชัดเจนถึงความพยายามในเรื่องนี้ก็คือ การสร้างตลาดบกและตลาดน้ำที่คุณเล็กบอกว่าไม่ได้เป็นเพียงเป็นแค่ตลาดที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนสิ่งของ หากเป็นเมืองที่คนหลายชาติหลายศาสนาอยู่ร่วมกันตามที่ชาวต่างชาติที่มาเยือนแต่สมัยอยุธยาได้เขียนเล่าและบันทึกภาพไว้ โดยเฉพาะย่านที่เรียกว่าตลาดบกนั้น คุณเล็กให้ชื่อว่า "นครสยาม"

 

คุ้มขุนแผน (เรือนไทยอยุธยา)

 

                 คุณเล็กคือตัวอย่างของคนไทยสมัยก่อนเปลี่ยนชื่อประเทศ ที่แลเห็นว่าความเป็นคนไทยหาใช่เป็นเรื่องของเชื้อชาติ หากเป็นสิ่งที่เกิดจากการบูรณาการทางการเมืองและวัฒนธรรมของผู้คนที่หลากหลายในสยามประเทศมากกว่า ประเทศสยามคือดินแดนที่คนหลากหลายทางชาติพันธุ์และผู้คนมาอยู่ร่วมกันอย่างเสรีและสงบสุข

 

"สยาม"คือประเทศ ผู้คนที่อยู่ร่วมกันคือ " คนไทย "

 

                 สยามกับไทยจึงเป็นสิ่งที่แยกกันไม่ออก เป็นสิ่งที่มีอยู่ในพระราชสำนึกของพระมหากษัตริย์ไทยทุกรัชกาล โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ซึ่งนับว่าทรงเป็นผู้นำในเรื่องชาตินิยมที่สำคัญ ดังในพระราชนิพนธ์โคลงสี่สุภาพที่มีการติดประดับไว้หน้ากระทรวงกลาโหมว่า

 

 

 หากสยามยังอยู่ยั้ง

ยืนยง

เราก็เหมือนอยู่คง     

ชีพด้วย

หากสยามพินาศลง

ไทยอยู่ ได้ฤา

เราก็เหมือนมอดม้วย

หมดสิ้น สกุลไทย

 

                    ทุกวันนี้ประวัติศาสตร์เชื้อชาตินิยมคือสิ่งเหลวไหลแต่ว่ามีอิทธิพลทำให้คนในรุ่นใหม่ที่เป็นคนส่วนใหญ่ในสังคมมหาชนคลั่งไคล้กับความเป็นไทยอย่างสุดโต่ง เปิดโอกาสให้คนรู้เท่าไม่ถึงการณ์และคนชั่วร้ายที่มี " ช่องทาง " ทางราชการและเศรษฐกิจ อ้างอิงความเป็นไทยในจำนวนกว่า ๖๐ ล้านคนอันเป็น " สิ่งสมมติ " แสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองและพรรคพวก ด้วยการแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติของคนท้องถิ่นที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและเผ่าพันธุ์ อันเป็น " สิ่งที่เป็นความจริง " ของสยามประเทศอย่างไม่หยุดหย่อน

 

                     การพัฒนาทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ดำรงมาตลอดเวลากว่าสี่สิบปีที่ผ่านมาคือประจักษ์พยานในเรื่องนี้ คนรุ่นใหม่ขาดความเข้าใจกับรากเหง้าที่แท้จริงของความเป็นสยามประเทศที่ให้ความร่มเย็นและให้ความสมดุลย์ทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรม แก่ผู้คนในสังคมมากว่าพันปี

 

                     ทางมูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์ จึงถือโอกาสในวันครบรอบสี่ปีในการจากไปของคุณเล็ก วิริยะพันธุ์ จัดกิจกรรมทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเพื่อให้แลเห็นความเป็นสยามประเทศ ในปีนี้ที่เมืองโบราณ อันประกอบด้วย

 

                     การเสวนาทางประวัติศาสตร์เรื่อง อยุธยาสยามประเทศ โดยมีอาจารย์ศรีศักร วัลลิโภดม และดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์ เป็นวิทยากรหลัก

 

                     การนำชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับสยามประเทศในเมืองโบราณให้กับครูและนักเรียนที่สนใจ

 

                     รวมทั้งมีนิทรรศการเกี่ยวกับความเป็น อยุธยาสยามประเทศ เมืองหลวงเก่าแก่ที่รวมความหมายทางสังคมหลากหลายทางชาติพันธุ์และวัฒนธรรมจากหลักฐานทางวรรณคดี จิตรกรรม และโบราณคดี-โบราณสถาน

อัพเดทล่าสุด 2 ก.พ. 2559, 00:00 น.
บทความในหมวด
ที่ตั้งมูลนิธิ ๓๙๗ ถนนพระสุเมรุ แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ ๑๐๒๐๐
โทรศัพท์ ๐-๒๒๘๑-๑๙๘๘ , ๐-๒๒๘๐-๓๓๔๐ โทรสาร ๐-๒๒๘๐-๓๓๔๐
อีเมล์ [email protected]
                    
Copyright © 2011 lek-prapai.org | All rights reserved.