ในขณะที่ชาวบ้านที่อยู่อาศัยโดยทั่วไปนั้นทราบและรับรู้ว่า ชุมชนนั้นมีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา [Living Community] มีผู้ย้ายเข้าและย้ายออกไปโดยเหตุต่างๆ กลุ่มคนดั้งเดิมเป็นใคร และกลุ่มคนที่ย้ายเข้ามาใหม่คือใคร โดยยอมรับผู้มาใหม่ให้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนจากการช่วยเหลือและทำกิจกรรมในชุมชนร่วมกัน แต่ก็ยังเป็นชุมชนอยู่ทำให้เกิดปัญหาเมื่อต้องพิจารณาว่าชุมชนใดควรถูกไล่รื้อหรือชุมชนใดควรได้รับการสงวนไว้ และมีสิทธิโดยชอบธรรมในที่อยู่อาศัยนั้น และการประเมินคุณค่าของชุมชนต่างๆ โดยไม่ศึกษาค้นคว้าข้อมูลโดยรอบด้าน ทำให้เห็นคุณค่าของชุมชนในตรอกซอกซอยต่างๆ น้อยลง เมื่อไม่เข้าใจจึงให้สนใจแต่เฉพาะสิ่งที่เห็นประจักษ์คือโบราณสถานหรือโบราณวัตถุและสิ่งที่จับต้องได้ตามองเห็นเท่านั้น
แหล่งชุมชนแออัดที่เรียกว่าเป็นแหล่งเสื่อมโทรมดังกล่าวนี้ คือผู้คนภายในที่มีวิถีชีวิตร่วมกันที่ไม่ได้ระดับมาตรฐานของความเป็นอยู่ของความเป็นเมืองคือ “วัฒนธรรมความจน” [The Culture of Poverty] เป็นความยากจนที่มองจากข้างนอกเข้ามา
หากพูดถึงบ้านนราศิลป์สมัยก่อนคนจะนึกถึงความเป็นบ้านโขน แต่สิ่งที่นอกเหนือจากโขนที่นี่ยังเป็นบ้านที่ทำละครร้อง ละครวิทยุ ภาพยนตร์ และถือว่าเป็นคนทำคอสตูมเจ้าแรกของประเทศไทยก็ว่าได้ ตั้งแต่สมัยช่อง๔ บางขุนพรหม เมื่อก่อนจะมีสามบ้านที่ร่วมหัวจมท้ายกันคือบ้านนาฏศิลป์สัมพันธ์ บ้านดนตรีคือบ้านดุริยะประณีต และบ้านเครื่องบ้านนราศิลป์ จนกระทั่งร่วมงานกันมาจนถึงทุกวันนี้