รัฐสุโขทัยมิได้เกิดขึ้นมาโดยลำพัง และมีการปกครองแบบรวมศูนย์เป็นอาณาจักร แต่เป็นรัฐแห่งหนึ่งที่เกิดขึ้นบนพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และการมีชุมชนที่มีพัฒนาการมาตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์ประกอบกับความสัมพันธ์กับบ้านเมืองต่างๆในบริเวณโดยรอบผ่านระบบเครือญาติและการค้าตามที่ปรากฏหลักฐานจารึก ตำนาน และงานศิลปกรรมที่พบตามเมืองโบราณต่างๆ
โบราณสถานต่างๆ บริเวณเมืองเก่าสุโขทัยคือภาพสะท้อนให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองทางสังคม เศรษฐกิจและวัฒนธรรมในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๙-๒๐ อย่างไรก็ตาม พื้นฐานของเมืองสุโขทัยและในบริเวณลุ่มน้ำยมมิได้เริ่มเกิดขึ้นเมื่อพุทธศตวรรษที่ ๑๙ เท่านั้น หากแต่มีร่องรอยของการตั้งถิ่นฐานของผู้คนมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์สืบเนื่องมาจนถึงสมัยสุโขทัย ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้พื้นที่แห่งนี้มีการอยู่สืบเนื่องกันมาอย่างยาวนานคือเรื่องของทรัพยากรและสภาพภูมิศาสตร์ที่เอื้อต่อการดำรงอยู่ของบ้านเมืองพร้อมกับการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในพื้นที่โบราณสถานบริเวณเมืองสุโขทัยมิได้มีสถานะเพียงแค่ภาพแทนความรุ่งเรืองทางศาสนาเท่านั้น หากแต่ยังมีความหมายถึงการควบคุมหรือการสร้างพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่ทรัพยากรที่สำคัญของบ้านเมือง ณ บริเวณแหล่งต้นน้ำที่อยู่ใกล้เคียงหล่อเลี้ยงบ้านเมืองบริเวณเชิงเขาหลวงแห่งนี้มาอย่างยาวนาน
สำหรับหน้าที่ของโรงเจจากอดีตถึงปัจจุบัน สะท้อนความเปลี่ยนแปลงจากคำบอกเล่าที่ว่า "เมื่อก่อนคนจีนใช้โรงเจเป็นที่พบปะสังสรรค์ กินน้ำชาหรือเล่นดนตรีจีน สีซอ ตีขิม ร้องบรรเลงเพลงจีนคุยเล่นกัน ปัจจุบันบรรยากาศเหล่านี้ไม่มีแล้ว รวมทั้งเรื่องที่มีที่พักให้คนมานอนค้างช่วงเทศกาลกินเจ ก็ไม่ได้ใช้งานสำหรับการพักค้างอีกต่อไป"