คณะละครจงกล โปร่งน้ำใจจากย่านนางเลิ้งมาร่วม สาธิตการรำและร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกับทางคณะละครเท่งตุ๊กจันทบุรี สาธิตการรำซัดไหว้ครูละครชาตรี หรืออีกชื่อหนึ่งคือการรำซัดหน้าเตียง โดยเริ่มจากการนั่งร้องไหว้ครูและรำซัด ซึ่งทั้งสองคณะต่างก็เลือกบทรำไหว้ครูที่สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะบางประการที่มีร่วมกันและต่างกัน แม้ว่าจะเป็นคณะละครที่อยู่ต่างพื้นที่คนละท้องถิ่น
ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชภายหลังจากขับไล่พม่าออกจากกรุงศรีอยุธยาได้ แต่ก็ไม่สามารถที่จะตั้งรกรากที่กรุงศรีอยุธยาได้เนื่องจากมีประชากรน้อย รวมทั้งขนาดของกรุงศรีอยุธยาที่มีขนาดใหญ่ยากต่อการควบคุมดูแล จึงย้ายลงมาที่เมืองธนบุรี ใช้เป็นฐานที่มั่นหลักของพระองค์ เหตุที่เลือกกรุงธนบุรีเพราะเมืองธนบุรีมีขนาดเล็ก ใกล้ทะเลสามารถติดต่อค้าขายและอพยพเคลื่อนย้ายออกไปได้ง่าย.
"พระนครชวนชม" จากกิจกรรมพระนคร ๑๐๑ ครั้งที่ ๖ เรียนรู้ความหลากหลายทางกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ย่านสำเพ็ง เมืองท่าและย่านการค้าที่สำคัญของกรุงเทพฯ จากอดีตสู่ปัจจุบัน เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ วิถีชีวิต และวัฒนธรรมที่แตกต่างหลากหลายของการอยู่ร่วมกันของผู้คน.
กรุงเทพเป็นเมืองที่รวมความหลากหลายของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในระยะแรกความหลากหลายทางกลุ่มชาติพันธุ์มาจากการกวาดต้อนผู้คนจากการทำสงครามในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ทั้งกรณีที่ไปเกณฑ์พลมา และที่อพยพกันมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระมหากษัตริย์สยาม เช่น กลุ่มทวายย้ายมาตั้งรกรากอยู่ยานนาวา (โดยมีเชื้อพระวงศ์ในราชวงศ์จักรีเป็นผู้นำอพยพเข้ามา) ตรอกทวายตรงแม้นศรี และที่ถนนตะนาว ก็อาจเป็นกลุ่มทวายที่ย้ายจากตะนาวศรีมาอยู่กรุงเทพฯ รับราชการเป็นผู้ทำงานต่อเรือหลวง...
ความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องความตายของคนไทยที่มีมาแต่เก่าก่อนนั้น เมื่อใครสักคนตายจึงต้องมีพิธีสวดส่งวิญญาณ ทำบุญส่งให้วิญญาณ และฝังหรือเผาร่างนั้นไปเสีย ในช่วงต้นรัตนโกสินทร์นั้นบริเวณที่ฝังศพหรือเผาศพส่วนใหญ่ก็คือบริเวณท้ายวัดที่เราเรียกกันว่า "ป่าช้า"